Categoriesตกแต่งบ้าน

ตารางอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารไหนดี 2567 ประจำเดือนกรกฎาคม

ธนาคารดอกเบี้ยต่ำสุดเฉลี่ย 3 ปีแรกวงเงินกู้สูงสุด 1.ธนาคารอาคารสงเคราะห์ 2.60% วงเงินกู้ตามเกณฑ์หลักประกันให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อ (ลูกค้ารายย่อยทั่วไป และลูกค้าสวัสดิการไม่มีเงินฝาก ผู้กู้มีรายได้ (Gross) ตั้งแต่ 70,000 บาท/เดือนขึ้นไป วงเงินนิติกรรมทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป)

อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.545% (ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567)2.ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ 3.04% วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมิน (สำหรับลูกค้าที่ทำประกัน MRTA/MLTA ไม่ฟรีค่าจดจำนอง)

อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR =8.800% (ประกาศ ณ วันที่ 11 ตุลาคม 2566) 3.ธนาคารทหารไทยธนชาต 3.39% วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 50,000,000 บาท (สำหรับลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี TTB และทำประกันตามเงื่อนไข)

***อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลระหว่างวันที่ 2 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2567 กรุณาอัปเดตกับธนาคารอีกครั้ง***

อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.830% (ประกาศ ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2566​) 4.ธนาคารกรุงไทย 3.40% วงเงินกู้สูงสุด 100% (กรณีที่ทำประกัน)

อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.570% (ประกาศ ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2566​) 5.ธนาคารไทยพาณิชย์ 3.42% ไม่เกินวงเงินสินเชื่อเคหะเท่ายอดหนี้เดิม

***อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลระหว่างวันที่ 16 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2567 กรุณาอัปเดตกับธนาคารอีกครั้ง***

อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.300% (ประกาศ ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2566) 6.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา 3.50% วงเงินกู้สูงสุด 95% ของราคาประเมิน (สำหรับหลักประกันประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ห้องชุดพักอาศัย ตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป)

อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.400% (ประกาศ ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2566) 7.ธนาคารกรุงเทพ 3.50% วงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือ (วงเงินอนุมัติตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป กรณีหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยในกลุ่มโครงการที่มีข้อตกลงกับธนาคาร และทำประกันตามเงื่อนไข)

***อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลในระหว่างวันที่ 11 ม.ค. – 31 มี.ค. 2567 กรุณาอัปเดตกับธนาคารอีกครั้ง***

อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.050% (ประกาศ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567)8.ธนาคารกสิกรไทย 3.67% ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน (วงเงินกู้ ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป กรณีทำประกันตามเงื่อนไข)

อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.3000% (ประกาศ ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2566) *** อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์เฉลี่ย 3 ปี คำนวณแบบค่าเฉลี่ยทางคณิตศาสตร์เท่านั้น***ที่มาอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ธนาคารไหนดี 2567 เฉลี่ย 3 ปี สามารถดาวน์โหลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านของแต่ละธนาคาร และชมรายละเอียดเพิ่มเติม เช่น อัตราดอกเบี้ยรายปี วงเงินกู้ และข้อมูลอื่น ๆ ได้ที่ ดาวน์โหลดอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านฉบับเต็มได้ที่นี่

8 อันดับธนาคารน่าสนใจ ที่มีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุด ประจำเดือน กรกฎาคม 2567

1. ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (G H Bank)

อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ มีผลิตภัณฑ์ สินเชื่อบ้าน GHB Precious Plus ปี 2567 สำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป หรือ ลูกค้าสวัสดิการไม่มีเงินฝาก ผู้กู้มีรายได้ (Gross) ตั้งแต่ 70,000 บาท/เดือนขึ้นไป วงเงินนิติกรรมทุกบัญชีรวมกันตั้งแต่ 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 2.60% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1 = 1.60% อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 2 = 2.60% และอัตราดอกเบี้ยปีที่ 3 = 3.60% โดยให้วงเงินกู้ตามเกณฑ์หลักประกันให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่อนอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจ และให้อัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอด 3 ปี คือ สินเชื่อบ้าน Happy Life ปี 2567 สำหรับลูกค้ารายย่อยทั่วไป มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 2.98% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1 = 1.95% และอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 2 – 3 = 3.50% โดยให้วงเงินให้กู้สูงสุดไม่เกิน 2,500,000 บาทต่อรายต่อหลักประกัน วงเงินกู้ตามเกณฑ์รายได้ให้เป็นไปตามระเบียบปฏิบัติงานสินเชื่ออ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 6.545% (ประกาศ ณ วันที่ 1 พฤษภาคม 2567)

2. ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LH Bank)

ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.04% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก 1.99% ปีที่ 2 = 3.56% และปีที่ 3 = MRR-3.01% สำหรับลูกค้าที่ทำประกัน MRTA/MLTA ไม่ฟรีค่าจดจำนอง ส่วนลูกค้าที่ต้องการให้ธนาคารออกค่าจดจำนองให้มีอัตราดอกเบี้ย 3 ปีอยู่ที่ 3.29% สำหรับกรณีทำประกัน MRTA/MLTAนอกจากนั้น การขอลดดอกเบี้ยบ้านกับ ธนาคาร แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด ยังมีสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์สำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการทำประกัน MRTA/MLTA ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีอยู่ที่ 3.62% โดยผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 รูปแบบที่กล่าวมาให้วงเงินกู้ 100% ของภาระหนี้คงเหลือจากสถาบันการเงินเดิม แต่ไม่เกินราคาประเมินหลักประกันอ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR =8.800% (ประกาศณ วันที่ 11 ตุลาคม 2566)

3. ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB)

สินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธนาคารทหารไทยชาต แบ่งออกเป็นผลิตภัณฑ์ 2 กลุ่มหลัก ๆ ด้วยกัน คือ สินเชื่อสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ทีทีบี (ลูกค้าที่รับเงินเดือนผ่านบัญชี TTB Payroll) ที่มีอัตราสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.39% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.39% ตลอด 3 ปี โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผู้กู้สินเชื่อต้องสมัครพร้อมผลิตภัณฑ์เสริม 3 ประเภทส่วน สินเชื่อสินเชื่อบ้านรีไฟแนนซ์ ทีทีบี (สำหรับลูกค้าทั่วไป ที่ไม่ได้รับบัญชีเงินเดือนผ่าน ทีทีบี) จะมีอัตราสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปีแรกต่ำสุดอยู่ที่ 3.49% ในกรณีของการสมัครพร้อมผลิตภัณฑ์เสริม 3 ประเภท แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.49% ตลอด 3 ปี โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่กล่าวมาให้วงเงินขั้นต่ำ 500,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 50,000,000 บาททั้งนี้เอง ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% ต่อปี สำหรับผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ย MRR, MLR และ MOR โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2567 – 15 พ.ย. 2567 เป็นระยะเวลา 6 เดือนลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ได้รับความช่วยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

  1. ลูกค้าสินเชื่อบ้าน ที่มีรายได้รวมเฉลี่ยต่อเดือน ไม่เกิน 30,000 บาท และมีวงเงินอนุมัติไม่เกิน 2 ล้านบาท
  2. ลูกค้าสินเชื่อเอสเอ็มอี ที่มีรายได้ในปี พ.ศ. 2565 ไม่เกิน 30 ล้านบาท และมีวงเงินอนุมัติไม่เกิน 5 ล้านบาท โดยมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว จะไม่ครอบคลุมลูกค้าสินเชื่อบ้านและสินเชื่อเอสเอ็มอีที่ได้เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลือเฉพาะรายกับธนาคารมาก่อนหน้า

***อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลระหว่างวันที่ 2 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2567 กรุณาอัปเดตกับธนาคารอีกครั้ง***อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.830% (ประกาศ ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2566)

4. ธนาคารกรุงไทย (KTB)

สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน ขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธนาคารกรุงไทย มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีอยู่ที่ 3.40% สำหรับ กรณีขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ แบบทำประกัน แบ่งเป็น อัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1 = 1.99% และอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 2-3 = 4.10% สามารถเลือกผ่อนต่ำล้านละ 3,500 บาท ช่วงปีที่ 1 ได้นอกจากนั้น ธนาคารกรุงไทย (KTB) ยังมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน แบบไม่ทำประกัน ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีต่ำที่สุด 3.50% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 1 = 2.29% และอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีที่ 2-3 = 4.10% สามารถเลือกผ่อนต่ำล้านละ 3,500 บาท ช่วงปีที่ 1 ได้เช่นกัน โดยผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์ทั้งหมดที่กล่าวมาให้วงเงินกู้สูงสุดอยู่ที่ 100% และมีระยะเวลาผ่อนนานสูงสุด 40 ปีนอกจากนั้น ธนาคารกรุงไทย (KTB) ก็ออกมาตรการเพิ่มเติม ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับลูกค้ากลุ่มเปราะบางได้มีโอกาสปรับตัวและฟื้นตัว โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ที่มีการเรียกเก็บดอกเบี้ยอ้างอิงกับอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR MLR และ MOR ลง 0.25% ต่อปี เป็นระยะเวลา 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2567 – 15 พ.ย. 2567ลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ได้รับความช่วยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

  1. ลูกค้าสินเชื่อบ้านและสินเชื่อบุคคลที่ยังอยู่ในมาตรการให้ความช่วยเหลือของธนาคาร
  2. ลูกค้าสินเชื่อบ้านที่มีวงเงิน ≤ 2 ล้านบาท
  3. ลูกค้ากลุ่มสินเชื่อ SME รายย่อยทั้งลูกค้าบุคคลธรรมดาและนิติบุคคลที่ดำเนินธุรกิจ โดยรายได้กิจการต่อเดือน ≤ 2 ล้านบาท และมีวงเงินสินเชื่อ ≤ 10 ล้านบาท

ข้อยกเว้น : ยกเว้นบัญชีสินเชื่ออปท. แบบพิเศษที่ไม่ได้อยู่ในมาตรการให้ความช่วยเหลือของธนาคาร และ ยกเว้นบัญชีที่ศาลมีคำพิพากษาแล้วอ้างอิงตามอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อเงินให้ MRR = 7.570% (ประกาศ ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2566)

5. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB)

ธนาคารไทยพาณิชย์ มีอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้านด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ แบบทำประกัน ที่มีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์เฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.42% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปี่ที่ 1 = 2.09% ปีที่ 2 = MRR-3.15% ปีที่ 3 = MRR-2.91% โดยเงื่อนไขในการทำประกันชีวิตคุ้มครองสินเชื่อจะต้องมากกว่า 70% และในกรณีที่รีไฟแนนซ์จากสถาบันการเงินอื่นส่วนอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์ แบบไม่ทำประกัน มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.89% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปี่ที่ 1-2= 3.19% และปีที่ 3 = 5.29% โดยผลิตภันฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์ทั้งหมดของ ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้วงเงินกู้สูงสุด 100% ของราคาประเมินหลักประกัน หรือ วงเงินกู้สูงสุดต้องไม่เกินวงเงินสินเชื่อเคหะเท่ายอดหนี้เดิมของวงเงินกู้ทั้งนี้ สำหรับลูกค้าทั่วไป ลูกค้าโครงการ / ลูกค้าองค์กร จะได้รับอัตราดอกเบี้ยพิเศษ ขึ้นอยู่กับประเภทโครงการ หรือ ประเภทองค์กร และเป็นไปตามเงื่อนไขของธนาคาร โดยสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่ SCB.CO.THนอกจากนั้น ธนาคารไทยพาณิชย์ เองก็มีประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สำหรับเงินกู้ (Loan) ที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยลอยตัว MRR และ MLR เพื่อช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME รายย่อย เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม – 15 พฤศจิกายน 2567ลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ได้รับความช่วยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

  1. ลูกค้าบุคคล สินเชื่อบ้าน และ My Home My Cash ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 2 ล้านบาท
  2. ลูกค้าผู้ประกอบการ SME รายย่อย สินเชื่อธุรกิจ ประเภทเงินกู้ระยะยาว (Term Loan) ที่มีวงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท (โดยพิจารณาจากยอดค้างชำระเงินกู้ระยะยาว และวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน)

***อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลระหว่างวันที่ 16 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2567 กรุณาอัปเดตกับธนาคารอีกครั้ง***อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.300% (ประกาศ ณ วันที่ 2 ตุลาคม 2566​)

6. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY)

สำหรับการขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีอยู่ที่ 3.50% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอด 3 ปี คือ ปีที่ 1 = 2.50% ปีที่ 2 = 3.50% และปีที่ 3 = MRR-2.90% โดยมีเงื่อนไขสำหรับหลักประกันประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ห้องชุดพักอาศัย ราคาตั้งแต่ 1.5 ล้านบาทขึ้นไป และสามารถผ่อนชำระได้นานสูงสุดถึง 30 ปี (ระยะเวลาผ่อนชำระรวมกับอายุผู้กู้แล้วต้องไม่เกิน 65 ปี) โดยให้วงเงินกู้สูงสุดที่ 95% ของราคาประเมินนอกจากนั้น ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยังมีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์สำหรับหลักประกันประเภท อาคารพาณิชย์วงเงินกู้ตั้งแต่ 1 ล้านบาทแต่ไม่ถึง 5 ล้านบาท ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 5.27% และ อาคารพาณิชย์วงเงินกู้ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป ที่มีอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 5.03% โดยให้วงเงินกู้สูงสุด 90% ของราคาประเมินทั้งนี้เอง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ได้ออกมาตรการช่วยเหลือ ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% ให้ลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และผู้ประกอบการ SME เป็นเวลา 6 เดือน มีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 – 15 พฤศจิกายน 2567ลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ได้รับความช่วยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

  1. ลูกค้าสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นลูกค้าปัจจุบันที่มีวงเงินอนุมัติรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท (ตามข้อมูลธนาคาร ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567) และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน (ตามการประเมินของธนาคาร ณ วันที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อดังกล่าวครั้งล่าสุด)
  2. ลูกค้าผู้ประกอบการ SME ซึ่งเป็นลูกค้าปัจจุบันครอบคลุมทั้งที่เป็นลูกค้าบุคคลและนิติบุคคล ที่มีวงเงินสินเชื่อธุรกิจรวมไม่เกิน 2 ล้านบาท (ตามข้อมูลธนาคาร ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567) และมียอดขายไม่เกิน 200,000 บาทต่อเดือน (ตามการประเมินของธนาคาร ณ วันที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อดังกล่าวครั้งล่าสุด)

อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.400% (ประกาศ ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2566)

7. ธนาคารกรุงเทพ (BBL)

สำหรับอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์บ้าน ขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธนาคารกรุงเทพ เฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกแบ่งเป็น 2 รูปแบบด้วยกัน คือ แบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.50% แบ่งเป็น ปีที่ 1-2 = 3.00% และปีที่ 3 = MRR-2.80% และ แบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ 3 ปี ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 3.50% เช่นกัน โดยผลิตภัณฑ์ทั้ง 2 รูปแบบ กำหนดเฉพาะวงเงินอนุมัติตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป (กรณีหลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยในกลุ่มโครงการที่มีข้อตกลงกับธนาคาร) และ ทำประกันคุ้มครองวงเงินสินเชื่อตามเงื่อนไขของธนาคาร โดยให้ วงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลือส่วนกรณี หลักทรัพย์เป็นที่อยู่อาศัยทั่วไปที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มโครงการที่มีข้อตกลงกับธนาคาร มีอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์เฉลี่ยต่ำสุด 3 ปีแรกอยู่ที่ 3.72% กรณีทำประกันตามเงื่อนไข และ 3.88% กรณีไม่ทำประกันตามเงื่อนไข โดยให้ วงเงินกู้สูงสุดเท่ากับ 100% ของภาระหนี้คงเหลืออนุมัติวงเงินตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป***อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวมีผลในระหว่างวันที่ 11 ม.ค. – 31 มี.ค. 2567 กรุณาอัปเดตกับธนาคารอีกครั้ง***อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.050% (ประกาศ ณ วันที่ 29 เมษายน 2567)

8. ธนาคารกสิกรไทย (Kbank)

ขอลดดอกเบี้ยบ้าน ธนาคารกสิกรไทย มีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปี ต่ำสุด อยู่ที่ 3.67% แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ปีแรก = 3.34% ปีที่ 2 และ 3 = 3.84% สำหรับลูกค้าที่ทำประกันเพื่อคุ้มครองสินเชื่อบ้านตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด วงเงินกู้ ตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไปนอกจากนั้น ธนาคารกสิกรไทย ยังมีผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าที่ไม่ประสงค์ทำประกันเพื่อคุ้มครองสินเชื่อ มีอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านเฉลี่ย 3 ปี ต่ำสุด แบ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยคงที่ตลอด 3 ปี = 3.84% สำหรับวงเงินกู้ ตั้งแต่ 2 ล้านบาทแต่ไม่ถึง 4 ล้านบาททั้งนี้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อรีไฟแนนซ์จาก ธนาคารกสิกรไทย ให้วงเงินกู้ไม่เกิน 100% ของราคาประเมินหลักประกัน และมีระยะเวลาให้กู้ สูงสุดไม่เกิน 30 ปี (อายุผู้กู้ไม่เกิน 70 ปี)รวมไปถึง มาตรการช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ในช่วงเศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ลดดอกเบี้ย 0.25% สำหรับเงินกู้ (Loan) ที่อ้างอิงอัตราดอกเบี้ยลอยตัว เป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม 2567 – 15 พฤศจิกายน 2567ลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ได้รับความช่วยมีหลักเกณฑ์ดังนี้

  1. ลูกค้าบุคคลที่ใช้ผลิตภัณฑ์ “สินเชื่อบ้าน” หรือ “สินเชื่อบ้านช่วยได้” ที่มีวงเงินอนุมัติรวมกับธนาคารกสิกรไทย ไม่เกิน 2,000,000 บาท ตามข้อมูลธนาคาร ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 และมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน ตามการประเมินของธนาคาร ณ วันที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อดังกล่าวครั้งล่าสุด
  2. ลูกค้า SME ที่มียอดค้างชำระเงินกู้กับธนาคารกสิกรไทย และวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนกับธนาคารกสิกรไทย รวมกันแล้วไม่เกิน 2,000,000 บาท ณ วันที่ 31 มีนาคม 2567 และมียอดขายไม่เกิน 200,000 บาทต่อเดือน ตามการประเมินของธนาคาร ณ วันที่ธนาคารพิจารณาอนุมัติสินเชื่อดังกล่าวครั้งล่าสุด

อ้างอิงตามประกาศธนาคาร MRR = 7.300% (ประกาศ ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2566​)*อัตราสินเชื่อบ้านโดยส่วนใหญ่จะเปลี่ยนแปลงไม่บ่อยมากนัก ประมาณ 1 ไตรมาส หรือ ครึ่งปีต่อครั้ง ทั้งนี้ การปรับเปลี่ยนของอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านขึ้นอยู่กับปัจจัยที่แตกต่างกันระหว่างธนาคารแต่ละที่ด้วย

8 ขั้นตอนในการรีไฟแนนซ์บ้าน (Refinance) ขอลดดอกเบี้ยบ้าน

  1. ติดต่อกับธนาคารเดิมเพื่อขอรายการสรุปยอดหนี้สินเชื่อบ้าน โดยค่าใช้จ่ายในขั้นนี้ขึ้นอยู่กับธนาคารนั้น ๆ บางธนาคารอาจไม่มีค่าใช้จ่าย
  2. หลังจากได้รายการยอดหนี้ที่ต้องการแล้วก็นำเอกสารดังกล่าวไปยื่นขอรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่ (ในกรณีที่คุณพิจารณาแล้วว่าการรีเทนชั่นอาจจะคุ้มกว่าก็สามารถยื่นกับธนาคารเดิมได้)
  3. ไม่ต่างกับการกู้ซื้อบ้านที่เคยทำในช่วงแรก เจ้าหน้าที่จะต้องมาประเมินบ้านหรือทรัพย์สินที่เราต้องการรีไฟแนนซ์
  4. รอฟังผลการอนุมัติจากธนาคาร
  5. หากได้รับการอนุมัติสินเชื่อแล้ว เดินหน้าติดต่อกับธนาคารเก่านัดวันไถ่ถอนที่สำนักงานที่ดิน นำเอกสารไปไถ่ถอนบ้านจากสินเชื่อเดิม คิดยอดที่ต้องจ่ายเป็นเงินต้นบวกดอกเบี้ย (นับจนถึงวันไถ่ถอน)
  6. ติดต่อกับธนาคารใหม่ที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อทำสัญญาสินเชื่อใหม่ โดยนัดวันทำสัญญาและโอนบ้านที่ใช้จำนอง อย่าลืมนัดทั้ง 2 ธนาคารมาภายในวันเดียวกัน เพื่อชำระหนี้
  7. ไปที่สำนักงานที่ดิน ณ เขตที่ตั้งของทรัพย์สิน เพื่อทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์ โดยมีเจ้าหน้าที่จากทั้งสองธนาคารไปด้วย
  8. ขั้นตอนสุดท้าย มอบโฉนดที่ได้มาจากสำนักงานที่ดินให้กับธนาคารใหม่ เป็นอันเสร็จสิ้น

ข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้าน ขอลดดอกเบี้ยบ้าน

  • ลดดอกเบี้ยที่ต้องเสีย ดอกเบี้ยที่ถูกลงถือเป็นประโยชน์หลักที่เห็นได้ชัดที่สุดหากอัตราดอกเบี้ยผ่อนบ้านของธนาคารใหม่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของธนาคารเก่า เช่น สัญญาเดิมมีอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6.5 แต่สัญญาใหม่มีอัตราดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 3.5 เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง จำนวนดอกเบี้ยที่ต้องเสียต่อเดือนและดอกเบี้ยรวมทั้งสัญญาก็จะลดลงตามไปด้วย
  • หักเงินต้นได้มากขึ้น เมื่อภาระดอกเบี้ยน้อยลง ค่าผ่อนบ้านในแต่ละเดือนก็จะถูกนำไปหักเงินต้นคงเหลือได้มากขึ้น ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในเดือนต่อไปก็จะลดลงอีก เช่น ผู้ขอสินเชื่อผ่อนบ้านเดือนละ 20,000 บาท ในสัญญาเดิมต้องหักดอกเบี้ย 12,000 บาท เหลือหักต้นเพียง 8,000 บาท แต่สัญญาใหม่หักดอกเบี้ย 7,000 บาท ก็จะเหลือหักต้นเพิ่มขึ้นเป็น 13,000 บาท เป็นต้น
  • ค่าผ่อนบ้านที่น้อยลง สัญญาใหม่จะเป็นไปตามการประเมินจากธนาคารและตามการตกลงของผู้ขอสินเชื่อ ซึ่งอาจทำให้ค่าผ่อนบ้านในสัญญาใหม่ของผู้ขอสินเชื่อลดลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยลดลงหรือการขยายระยะเวลาในสัญญาใหม่นานขึ้น เช่น สัญญาเก่าผ่อนเดือนละ 20,000 บาท เหลือ 25 ปี สัญญาใหม่ที่ขยายเวลาเป็น 30 ปีทำให้เหลือผ่อนเพียงเดือนละ 15,000 บาท เป็นต้น
อัปเดตอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน MRR MLR MOR ล่าสุด

อัปเดตอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อบ้าน MRR MLR MOR ล่าสุด

ข้อมูลอัปเดตอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อบ้าน MRR MLR MOR อัปเดตปี 2567 จากหลากหลายธนาคาร เช่น ธ.กสิกรไทย ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทย ธ.ออมสิน ธ.ทหารไทย ธ.กรุงศรีอยุธยาทั้งนี้ การรีไฟแนนซ์ (Refinance) หรือขอลดดอกเบี้ยบ้านนั้น สามารถช่วยประหยัดดอกเบี้ยให้ผู้ขอสินเชื่อได้อย่างมากก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าการรีไฟแนนซ์จะสามารถลดดอกเบี้ยได้เสมอไป ดังนั้นก่อนจะรีไฟแนนซ์ แนะนำให้ผู้ขอสินเชื่อศึกษารายละเอียดของสินเชื่ออย่างละเอียดรอบคอบ โดยประเด็นหลักที่จะต้องพิจารณา คือ อัตราดอกเบี้ยตลอดอายุสินเชื่อของสินเชื่อรีไฟแนนซ์จะต้องต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยตลอดสินเชื่อปัจจุบันอีกทั้งยังต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการรีไฟแนนซ์ (Refinance) เช่น ค่าธรรมเนียมการจดจำนอง ค่าอากร ค่าประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ รวมไปถึง ค่าประกันอัคคีภัยหรือประกันสินเชื่อ (MRTA) ซึ่งมีเงื่อนไขแตกต่างกันตามแต่ละธนาคาร ที่สำคัญอย่าลืมต้องตรวจสอบเงื่อนไขการไถ่ถอนสินเชื่อจากธนาคารเดิมด้วยว่ากำหนดให้ผู้ขอสินเชื่อสามารถรีไฟแนนซ์ได้ตั้งแต่ปีที่เท่าไรของการกู้ เพราะมิฉะนั้นแล้วผู้กู้จะต้องถูกปรับจากธนาคารเดิม หากผู้ขอสินเชื่อไถ่ถอนหนี้ก่อนกำหนดข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นข้อมูลทั่วไปเท่านั้น DDproperty by PropertyGuru ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัท ออลพร็อพเพอร์ตี้ มีเดีย จำกัด ไม่สามารถรับรองหรือรับประกันเกี่ยวกับข้อมูล รวมทั้งไม่สามารถรับรองหรือรับประกันใด ๆ เกี่ยวกับความเหมาะสม สำหรับวัตถุประสงค์เฉพาะใด ๆ ของข้อมูล ตามขอบเขตสูงสุดที่กฎหมายอนุญาต แม้ว่าเราได้พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ถูกต้อง เชื่อถือได้ และครบถ้วน ณ เวลาที่เขียน แต่ข้อมูลที่ให้ไว้ในบทความนี้ไม่ควรนำไปใช้ในการตัดสินใจทางการเงิน, การลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หรือทางกฎหมายทันที ผู้อ่านไม่ควรใช้ข้อมูลในบทความ แทนคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกอบรมซึ่งสามารถพิจารณาข้อเท็จจริงและสถานการณ์ส่วนตัวของคุณได้ ทั้งนี้ เราไม่สามารถรับผิดชอบใด ๆ หากคุณเลือกที่จะนำข้อมูลไปใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก >>> https://www.ddproperty.com/คู่มือซื้อขาย/อัปเดต-อัตราดอกเบี้ยสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้าน-40444?utm_source=ddproperty.com&utm_medium=referral&utm_campaign=-th-dd-others-other-nlcc-reach-ref-share_article_link_guides-20240728

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *